ปัญหาผมเสียจากการทำสี ผมแห้งไม่มีน้ำหนัก หนังศีรษะมัน ผมพันกันจนยุ่งเหยิง ผมแตกปลาย หรือแม้แต่ผมชี้ฟูจัดทรงยาก มักเป็นปัญหาหลักๆ ที่หลายคนต้องเจอ วันนี้ LOOKFANTASTIC ขอนำเสนอไอเท็มตัวเด็ดตัวดังที่คัดมาให้แล้วว่า ต้องมี ! แล้วทั้ง 6 ไอเท็มจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
TANGLE TEEZER - The Wet Detangler ต้องบอกเลยว่ารุ่น Wet Detangler ไซส์ Mini ควรมีสุดๆ เพราะว่าเค้าเหมาะกับผมเปียกและพกพาได้ง่าย วิธีการใช้ก็ไม่ยากเลย หลังจากที่สระผมเสร็จแล้ว ซับให้ผมแห้งหมาดๆ แล้วหวีด้วยหวีนี้ ผมที่ดูจะยุ่งเหยิงก็สางออกง่ายมาก ไม่เจ็บหนังศีรษะเลย ตัวซี่หวีมีขนาดสั้น-ยาว ผสมกันไป มีความยืดหยุ่นเล็กน้อย ทำให้ไม่ระคายเคืองหนังศีรษะ แถมช่วยนวดศีรษะได้ดีสุดๆ แม้ด้ามจับจะเล็กแต่ก็จับได้ถนัดมืออยู่นะหลายคนอาจเจอปัญหาว่าเมื่อใช้แปรงหวีผมไปนานๆ มักจะมีผมที่หลุดร่วงติดกับหวี ซึ่งเอาออกยากมาก แต่สำหรับ TANGLE TEEZER ไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะเราสามารถดึงเส้นผมและทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย ข้อดีเยอะขนาดนี้ไม่มีไม่ได้แล้ว
วิธีการใช้ หลังจากที่เราสระผมเสร็จ ซับผมให้หมาด ให้แบ่งผมและสเปรย์ลงไปบนเส้นผมทั่วๆ จากนั้นให้สางผม พร้อมกับเป่าให้แห้งด้วยความร้อน เพื่อให้ความร้อนกระตุ้นการทำงานของพอลิเมอร์ในผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยห่อหุ้มเส้นผม พร้อมปกป้องเส้นผมจากความชื้น ทำให้ผมอยู่ทรง เรียบเนียน แต่ไม่ลีบแบนค่ะ
เหมาะมากๆ กับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ออกแดด ตากลม เพราะช่วยให้ผมไม่ชี้ฟู แม้ว่าตัวนี้จะดูเหมือนสเปรย์แต่งผมแต่จริงๆ แล้ว เค้าไม่ใช่สเปรย์ที่ทำให้ผมแข็งนะคะ แต่เป็นฟีลแบบทรีทเม้นต์ ฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าผมจะเรียงตัวสวย ไม่แข็งทื่อ เหมาะกับหน้าร้อนสุดๆ เขาเคลมว่า ผมจะเงาสวยอยู่ได้แม้จะสระผมหลังจากที่ใช้ไปแล้ว 2-3ครั้งเลยค่ะ
ผู้เขียนได้ขนาดดีลักซ์มาทดลองใช้แล้วชอบมากๆ กำลังจะจัดขวดใหญ่ไปเลยค่า
ใครเป็นบ้างคะ หลังจากทำสีผมมา ต้องมากังวลเรื่องสีผมที่ไม่สดใสเหมือนเดิม สภาพผมที่แห้ง แถมกลัวว่าผมจะเสียแตกปลาย ขอแนะนำ GROW GORGEOUS เลยค่ะ เค้าเป็นทรีทเม้นต์ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับทุกสภาพผม มีส่วนผสมของ Oat Lipids ที่ช่วยสร้างเกราะป้องกันให้ผม บำรุงล้ำลึก เพื่อป้องกันไม่ให้ผมเปราะขาดได้ง่าย และยืดระยะเวลาในการที่ผมจะแตกปลายได้ค่ะ กลิ่นหอมสดชื่น มีกลิ่นข้าวโอ๊ตอ่อนๆ ผสมอยู่ด้วย
วิธีการใช้ ใช้ประมาณ 1 ปั๊ม ก็เพียงพอค่ะ จากนั้นนวดวนบนฝ่ามือ ให้ความร้อนในมือช่วยละลายผลิตภัณฑ์เล็กน้อย สางไปให้ทั่วบริเวณกลางและปลายผม แนะนำให้ใช้ตอนที่ผมหมาดๆ นวดให้ทั่วพร้อมกับเป่าผมให้แห้ง ผมนุ่มสลวย เด้งดีค่ะ
Hair Treatment Masque ที่ต้องมี ! สูตรนี้เป็นสูตรสำหรับผมเส้นเล็กถึงปานกลาง ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผม ลดความชี้ฟูและผมแตกปลาย ด้วยคุณสมบัติของเชียร์บัตเตอร์ แพนเธอนอล และเคราติน ที่สำคัญตัวนี้ใช้ได้กับผมทำสีด้วยค่ะ
นอกจากนี้กลิ่นของเค้ายังดีงามและเป็นเอกลักษณ์สุดๆ นั่นคือกลิ่น Melrose Place ประกอบไปด้วยกลิ่นกุหลาบ ที่ซ่อนความสดชื่นน่าค้นหาของมะกรูด ลิ้นจี่ ไม้ซีดาร์และมัสก์
วิธีการใช้ เมื่อสระผมด้วยแชมพูเสร็จแล้ว สามารถใช้แทนครีมนวดได้เลยค่ะ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีอาจจะหมักทิ้งไว้สัก 5-10 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด โดยใช้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ
หลังจากใช้เพียงครั้งแรก สัมผัสได้เลยว่าผมชุ่มชื้นขึ้นจริงๆ และไม่ทิ้งให้หนังศีรษะมันเยิ้มเลย สบายศีรษะ หวีง่าย จัดทรงง่าย ผมมีน้ำหนัก ไม่ลีบแบน บอกเลยว่าห้ามพลาด ใช้หมดแล้วได้ซื้อซ้ำแน่ๆค่ะ
วิธีการใช้ สามารถใช้ได้ทั้งตอนที่ผมหมาดหรือผมแห้งเลยค่ะ ด้วยความที่เค้าเป็น dry oil ที่ซึมง่าย ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ ทำให้ผมเงางามมากๆ เลย ที่สำคัญไม่ทำให้ผมเป็นก้อนแถมกลิ่นหอมติดผมด้วย
และนี่คือ 6 MUST HAVE hair products ที่ Lookfantastic คัดสรรมาให้แบบจัดเต็มกันไปเลย หวังว่าจะถูกใจใครหลายๆ คนที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ดีๆ ในการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะกันนะคะ
LOOKFANTASTIC ยังมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ “ผม” อีกมากมายที่ตอบโจทย์กับทุกสภาพผม ไปลองเลือกกันได้ แต่ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าจะเลือกผลิตภัณฑ์อะไรดี 6 ไอเท็มนี้คือคำตอบเลยค่า รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอน คอนเฟิร์ม !
—------------------
ผู้เขียน: Sara Sangchai